หนังสือให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ข้าพเจ้า ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ (“ผู้ใช้งาน”หรือ”ผู้ใช้บริการ”) ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา(“กรมฯ”) ยินยอมให้กรมฯเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าที่มีอยู่กับกรมฯภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
ข้อกำหนดและเงื่อนไข
1. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล
- ข้อมูลทั่วไป หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
- ข้อมูลทางการเงิน หมายความว่า ข้อมูลหรือสิ่งใด ๆ ที่แสดงออกมาในรูปเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง ภาพวาด ภาพถ่าย การบันทึกภาพหรือเสียงการบันทึกโดยเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นใดที่ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฏขึ้นในเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลทางการเงินของบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้
2. วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อบริการให้ตรงตามต้องการของผู้ใช้งาน กรมฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน เพื่อที่ผู้ใช้งานจะสามารถได้รับผลงานทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือบริการที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งานตามสัญญาหรือตามที่ผู้ใช้งานร้องขอ ในกรณีดังต่อไปนี้
- การพิจารณาอนุมัติและ/หรือให้บริการต่าง ๆ เช่น นัดหมายเจรจาธุรกิจ, เสนอซื้อ, เสนอขาย
- การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้ผลงานทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือบริการต่าง ๆ เช่น การประมวลผล การติดต่อ การแจ้ง การมอบงานให้แก่บุคคลอื่นที่เป็นผู้ให้บริการภายนอก การโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่
หากผู้ใช้งานปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่กรมฯ อาจทำให้กรมฯไม่สามารถจัดหาผลงานทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือให้บริการแก่ผู้ใช้งานได้
- เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายคอมพิวเตอร์ และกฎหมายล้มละลาย กรมฯมีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทนของผู้ใช้งานนิติบุคคล และบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ เป็นต้น นอกจากนี้ กรมฯมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงกรมฯอาจมีความจำเป็นที่จะต้องให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ หากผู้ใช้งานปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่กรมฯ อาจทำให้กรมฯไม่สามารถจัดหาผลงานทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือให้บริการแก่ผู้ใช้งานได้
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของกรมฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เช่น
- การรักษาความสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน เช่น การให้บริการผู้ใช้งาน การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลผู้ใช้งานโดยพนักงานของกรมฯ การสื่อสารหรือนำเสนอผลงานทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือบริการต่าง ๆ ประเภทเดียวกันกับที่ผู้ใช้งานมีอยู่กับกรมฯซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานเป็นระยะ ๆ
- การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การทุจริต การคุกคามทางไซเบอร์ การฟอกเงิน และกฎหมายอื่น ๆ
- การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Anonymous Data)
- วัตถุประสงค์ทางธุรกิจ กรมฯมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติหรือประชาสัมพันธ์กรมฯ เช่น การบันทึกภาพ บันทึกเสียงในการจัดประชุม อบรม สันทนาการ หรือการออกบูธ
ในกรณีที่ผู้ใช้งานปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่กรมฯ อาจทำให้กรมฯไม่สามารถให้บริการผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
- เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์จากการใช้ผลงานทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือบริการ ตามที่ผู้ใช้งานได้ให้ความยินยอมไว้ เช่น เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับผลงานทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับข้อเสนอ สิทธิประโยชน์พิเศษ คำแนะนำ และข่าวสารต่าง ๆ รวมถึงสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ เป็นต้น
ในกรณีที่ผู้ใช้งานปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่กรมฯ อาจทำให้กรมฯไม่สามารถให้บริการผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
- จากผู้ใช้งานโดยตรง เช่น ข้อมูลที่ผู้ใช้งานกรอกขณะลงทะเบียนสมัครใช้บริการ ข้อมูลที่ใช้ในการสมัครใช้บริการสมาชิก กรมฯ, ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน (Account) หรือข้อมูลที่ผู้ใช้งานได้แก้ไขปรับปรุงในข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน (Account) ของผู้ใช้งาน หรือข้อมูลที่ได้จากการที่ผู้ใช้งานติดต่อกับกรมฯหรือทีมงานของกรมฯ (เช่น ตัวแทน หรือข้อมูลที่ได้จากบัญชีผู้ใช้งาน (Account) อื่น ๆ ข้อมูลจากการใช้ผลงานทรัพย์สินทางปัญญา และ/หรือบริการของกรมฯ การติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านเว็บไซต์ Call Center และช่องทางอื่น ๆ ของกรมฯ ตลอดจนข้อมูลในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในแพลตฟอร์ม, การทำสำรวจ, งานสัมมนาและ Road Show
- ข้อมูลการบันทึกการสนทนาระหว่างผู้ซื้อกับเจ้าของผลงานทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบเสียง และ/หรือ วีดีโอ
- เทคโนโลยีการติดตาม (tracking technology) เมื่อผู้ใช้งานใช้งานเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของกรมฯ
- กรมฯในเครือ
- บุคคลภายนอก เช่น
- หน่วยงานของรัฐ
- สถาบันการเงิน
- ตัวแทน นายหน้า และคนกลางอื่น ๆ
- พันธมิตรทางธุรกิจ
- ผู้ให้บริการข้อมูล
- โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์ม และผู้ให้บริการโฆษณาต่าง ๆ
ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของผลงานทรัพย์สินทางปัญญาและการให้บริการของกรมฯให้ดียิ่งขึ้น
4. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
กรมฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้เสร็จสิ้น เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้เก็บรักษาข้อมูลไว้นานกว่า ซึ่งอาจมีกำหนดประมาณ 5 – 10 ปี หรือเกินกว่านั้นเท่าที่จำเป็น เช่น ตามอายุความที่กฎหมายกำหนดสำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้อง เพื่อการดำเนินคดี หรือเพื่อการตรวจสอบของหน่วยงานที่กำกับดูแล
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
กรมฯจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลใดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งานก่อน อย่างไรก็ดี ผู้ใช้งานรับทราบและยินยอมว่า เพื่อประสิทธิภาพในการให้บริการหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กรมฯอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานให้กับบุคคลต่อไปนี้
- หน่วยงานพันธมิตร
- ผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูล ทั้งในและต่างประเทศ
- หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว กรมฯจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่กรมฯได้กำหนดไว้
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมฯได้รับจากผู้ใช้งาน จะถูกเก็บไว้บนศูนย์ข้อมูล (Cloud) ของผู้ให้บริการประมวลข้อมูลซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและมีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ทั้งนี้ การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานของกรมฯไปยังผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูลภายนอกดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยในการเก็บรักษา การสำรองข้อมูล บริการเรียกข้อมูล และเพื่อประโยชน์ในการให้บริการ ซึ่งกรมฯได้ตรวจสอบและเลือกผู้ให้บริการอย่างรอบคอบและมีข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและขอบเขตการประมวลผลข้อมูลกับผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง โดยในกรณีที่ผู้ใช้บริการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่กรมฯ จะถือว่าผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอมในการถ่ายโอนข้อมูลข้ามพรมแดนและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานในต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น
อย่างไรก็ดี หากผู้ใช้งานเชื่อว่าบุคคลที่กรมฯเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามข้างต้น ได้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่กรมฯได้กำหนดไว้ ผู้ใช้งานสามารถแจ้งกรมฯตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เพื่อดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้ กรมฯอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลการให้บริการ หรือหน่วยงานกำกับดูแลผู้ใช้บริการ รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อาทิ การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเป็นการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงในกรณีที่มีความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการของกรมฯ ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมกรมฯ หรือการขายกิจการ กรมฯอาจถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนที่กรมฯเก็บรวบรวมไว้ไปยังกรมฯที่เกี่ยวข้อง
6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
กรมฯ อาจจะส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ที่กรมฯเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ไปยังต่างประเทศ ซึ่งประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- การแก้ไข หรือลบข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขหรือลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานได้ตลอดเวลา ผู้ใช้งานสามารถขอ “แบบคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล” เพื่อกรอกข้อมูลและส่งให้กับกรมฯทาง กรมฯ Contact Center: 1368 หรือ โทร: 0 2547 4661 / 0 2547 6040 ทั้งนี้ การลบข้อมูลอาจทำให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถรับบริการจากกรมฯได้ หรืออาจทำให้การให้บริการไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
- ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจากระบบหรือฐานข้อมูลผู้ใช้งานของกรมฯนั้น กรมฯจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นจะเสี่ยงต่อการละเมิดนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการรายอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการตรวจสอบหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือเพื่อเป็นไปตามนโยบายความปลอดภัยของระบบ หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ
- อย่างไรก็ดี แม้ว่ากรมฯจะได้ดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการแล้ว ข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังคงมีการบันทึกหรือทำสำเนาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือระบบสำรอง (Backup System) ของกรมฯ เพื่อเป็นการสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาด บกพร่อง หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบ
- การขอเข้าถึง และขอสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ของข้อมูลส่วนบุคคล การขอให้เปิดเผยและโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลอื่นด้วยวิธีการอัตโนมัติ การจำกัดหรือระงับการใช้ การปฏิเสธการประมวลผลข้อมูล ผู้ใช้งานสามารถขอ “แบบคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล” เพื่อกรอกข้อมูลและส่งให้กับกรมฯทาง กรมฯ Contact Center: 1368 หรือ โทร: 0 2547 4661 / 0 2547 6040
- การยกเลิกความยินยอม ผู้ใช้งานสามารถถอนความยินยอมของผู้ใช้งานที่ได้ให้แก่กรมฯเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลหรือกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจงต่าง ๆ ได้ทุกเวลาโดยติดต่อมายังกรมฯตามข้อมูลที่ระบุไว้ด้านล่าง
- นอกจากนี้ หากผู้ใช้งานไม่ประสงค์จะรับข้อมูลและข่าวสารประชาสัมพันธ์จากกรมฯ ผู้ใช้งานสามารถดำเนินการดังนี้
- กรณีไม่ประสงค์รับข้อมูลข่าวสารทางโทรศัพท์ : โปรดแจ้งความประสงค์ทาง กรมฯ Contact Center: Contact Center: 1368 หรือ โทร: 0 2547 4661 / 0 2547 6040
- กรณีไม่ประสงค์รับข้อมูลข่าวสารทางอีเมล (E-Mail) : ผู้ใช้งานสามารถกด “ยกเลิกรับข้อมูลข่าวสาร” ในอีเมลที่ผู้ใช้งานได้รับจากกรมฯได้ทันที
- การร้องเรียน ผู้ใช้งานมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่กรมฯหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของกรมฯหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
8. ผลการเพิกถอนความยินยอม
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจเพิกถอนความยินยอมให้กรมฯเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้น โดยแจ้งให้กรมฯทราบและกรมฯอาจขอทราบถึงเหตุผลแห่งการนั้น
การเพิกถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ที่จะเพิกถอนความยินยอม ให้กรมฯเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จะมีผลกระทบต่อผู้เพิกถอนการให้ความยินยอมเกี่ยวกับการพิจารณารับประกันภัย หรือการให้บริการผู้ใช้งานหรือการให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย และส่งผลให้กรมฯไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาประกันภัยได้
9. ช่องทางติดต่อ
- ผู้ใช้งานสามารถติดต่อกรมฯได้ตามที่อยู่ต่อไปนี้
กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 563 ถนนนนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000
อีเมล :ipmart@ipthailand.go.th สายด่วน 1368
- เพื่อให้การปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของกรมฯเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมฯได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานได้ หากผู้ใช้งานมีข้อสงสัยหรือข้อแนะนำเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติของกรมฯเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้งานสามารถแจ้งกรมฯได้ทาง กรมฯ Contact Center: Contact Center: 1368 หรือ โทร: 0 2547 4661
ข้าพเจ้าได้อ่านและเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าเพื่อรับบริการกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา